โพลิเมอร์คุณภาพสูง ปราศจากสาร PFAS เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

ในฐานะผู้ผลิตโพลิเมอร์ประสิทธิภาพสูง เราใช้วัสดุหลากหลายชนิดในกระบวนการผลิต  หนึ่งในวัสดุที่เราใช้คือโพลีเตตราฟลูออโรเอทิลีน (PTFE) ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มของฟลูออโรพอลิเมอร์ และเป็นส่วนหนึ่งของสารกลุ่มเปอร์-และโพลีฟลูออโรแอลคิล (PFAS) เนื่องจากในอนาคตสหภาพยุโรปอาจมีการห้ามใช้สาร PFAS เราจึงขอนำเสนอข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับสารชนิดนี้และผลิตภัณฑ์ของเรา

PFAS คืออะไร

PFAS (Per- and polyfluoroalkyl substances)  คือสารเคมีสังเคราะห์ที่มีโครงสร้างประกอบด้วยอะตอมของคาร์บอนและฟลูออรีนเชื่อมต่อกันอย่างแข็งแรง ทำให้มีคุณสมบัติทนความร้อน ความชื้น และไขมันได้ดี สารชนิดนี้สามารถอยู่ในรูปแก๊ส ของเหลว หรือของแข็ง นอกจากนี้ โครงสร้างของโมเลกุล PFAS สามารถแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งหมายความว่าสารเหล่านี้สามารถมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันได้มากมาย 

และด้วยคุณสมบัติมากมายเหล่านี้ PFAS จึงถูกนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น บรรจุภัณฑ์อาหาร เครื่องครัวเคลือบกันเปื้อน  เสื้อผ้า ผลิตภัณฑ์กันน้ำ และโฟมดับเพลิง

แม้จะนิยมใช้กันแพร่หลาย แต่หาก PFAS แพร่กระจายออกไปและสะสมในสิ่งแวดล้อมในปริมาณมาก อาจส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตและเป็นอัตรายต่อสุขภาพร่างกายของมนุษย์ เช่น ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งและโรคติดต่อตามมา เป็นต้น 

ในฐานะกลุ่มของสาร PFAS ประกอบด้วยสารประกอบที่แตกต่างกันหลายชนิด: ตามฐานข้อมูลของ OECD มีมากกว่า 4,700 ชนิด ตามข้อมูลของ EPA มีมากกว่า 9,000 ชนิด และตามข้อมูลของคณะกรรมาธิการยุโรป มีมากกว่า 10,000 ชนิด จากตัวเลขนี้ คุณจะเห็นว่านี่ไม่ใช่ค่าที่เฉพาะเจาะจงหรือคงที่ ค่าที่ระบุมักจะอิงตามการประมาณการ แผนภาพต่อไปนี้ให้ภาพรวมของการจำแนกประเภทของ PFAS เป็นสารที่ไม่ใช่โพลีเมอร์และโพลีเมอร์:

กลุ่มที่ไม่ใช่โพลิเมอร์

ในกลุ่มย่อยที่ไม่ใช่โพลิเมอร์ มีการศึกษาสารประกอบของกรดเพอร์ฟลูออโรออคทาโนอิก (PFOA) และกรดเพอร์ฟลูออโรออกเทนซัลโฟนิก (PFOS) มากที่สุด เช่นเดียวกับ PFAS อื่นๆ สารประกอบทั้งสองนี้คงอยู่ถาวร และปัจจุบันสามารถพบได้ในสิ่งแวดล้อม ห่วงโซ่อาหาร และในมนุษย์ PFOA และ PFOS มีผลเสียต่อสุขภาพที่พิสูจน์แล้ว เมื่อใช้ร่วมกับ PFHxs และ PFNA พวกมันคิดเป็น 90% ของการปนเปื้อนในปัจจุบันด้วย PFAS

ในบรรดาสารเคมีกลุ่มที่ไม่ใช่พอลิเมอร์นั้น สารประกอบที่ได้รับการศึกษามากที่สุดคือ กรดเพอร์ฟลูออโรออกเทนซัลโฟนิก (PFOS) และกรดเพอร์ฟลูออโรออกทาโนอิค (PFOA) ซึ่งเป็นสารในกลุ่ม PFAS เช่นเดียวกับสารอื่นๆ สารทั้งสองชนิดมีความคงตัวสูงมาก สามารถพบได้ในสิ่งแวดล้อม ห่วงโซ่อาหาร และในร่างกายมนุษย์ 

การศึกษาต่าง ๆ ยืนยันแล้วว่า PFOS และ PFOA มีผลเสียต่อสุขภาพ เมื่อพิจารณาถึงสารในกลุ่ม PFAS ที่พบได้บ่อยที่สุด ได้แก่ PFHxs และ PFNA พบว่า PFOS, PFOA, PFHxs และ PFNA คิดเป็นสัดส่วนถึง 90% ของการปนเปื้อนจากสารกลุ่ม PFAS ในปัจจุบัน

กลุ่มโพลิเมอร์

ในกลุ่มของโพลิเมอร์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท  ได้แก่ Fluoropolymers และ Polymers with fluorinated side chains

• Pluoropolymers ประกอบด้วยสายโซ่คาร์บอนที่มีอะตอมฟลูออรีนยึดติดโดยตรง ทำให้แข็งแรงมากจนไม่สามารถสลายเป็นสารพิษได้ ตามองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) ฟลูออโรโพลีเมอร์เป็น "ผลิตภัณฑ์ที่ไม่น่ากังวล" ไม่เป็นพิษและไม่สะสมในสิ่งมีชีวิต กล่าวคือไม่สามารถสะสมในสิ่งมีชีวิตได้ อันตรายเพียงอย่างเดียวคือการใช้สารเติมแต่งที่เป็นพิษในระหว่างการผลิตในรูปของอิมัลซิไฟเออร์ ฟลูออโรโพลีเมอร์ถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ เช่น การเคลือบผิว การซีล และฉนวนสายไฟ  
• Polymers with fluorinated side chains  ประกอบด้วยสายโซ่คาร์บอนเช่นกันแต่มีสายโซ่คาร์บอนด้านข้างที่อะตอมฟลูออรีนยึดติดอยู่ก่อน ทำให้โพลีเมอร์เหล่านี้มีความแข็งแรงน้อยกว่าและมีความเสี่ยงในการสูญเสียสายโซ่ข้างด้านข้าง  จึงถูกนำมาใช้ เช่น เป็นสารซึมผ่าน

กฎหมาย PFAS ในปัจจุบัน (วันที่ 20 เมษายน 2023) 

สหภาพยุโรป(EU)

• มีการห้ามใช้สารเพอร์ฟลูออโรออ็อคเทนซัลโฟเนต (PFOS) มาตั้งแต่ปี 2006 และห้ามใช้สารเพอร์ฟลูออโรอ็อคทาโนอิก กรด (PFOA) ตั้งแต่กรกฎาคม 2020 (ดูใบรับรองได้ที่นี่)
• 5 ประเทศในยุโรป (เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก สวีเดน นอร์เวย์) ได้เสนอข้อจำกัดเกี่ยวกับการใช้สาร PFAS ซึ่งเผยแพร่โดย ECHA (สำนักงานสารเคมีแห่งยุโรป) เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2023
•  ข้อเสนอนี้เป็นขั้นตอนแรกในกระบวนการกำกับดูแลในระยะยาวและจะมีการพิจารณาโดยผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย โดยระยะเวลาการให้ความเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย เริ่มตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2023 ถึงวันที่ 22 กันยายน 2023
• กฎระเบียบ PFAS ที่เสนอนี้ มีแนวโน้มที่จะมีผลบังคับใช้ในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป เร็วที่สุดในปี 2026 และอาจมีช่วงเวลาการเปลี่ยนผ่านสูงสุด 13 ปี นับจากวันที่กฎระเบียบมีผลบังคับใช้

สหรัฐอเมริกา (US)

• สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา (EPA) ได้ออกกฎระเบียบขั้นสุดท้าย โดยเพิ่มสาร PFAS อีก 5 ชนิด เข้าไปในรายการสาร PFAS กว่า 170 ชนิด ที่ต้องรายงานภายใต้ระบบทะเบียนการปล่อยสารพิษ (TRI) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลกลางสำหรับการรายงานสารเคมีต่อสาธารณะ
• สารประกอบฟลูออโรโพลิเมอร์ (Fluoropolymers) ไม่รวมอยู่ในรายการการปล่อยสารพิษ  (TRI)

การห้ามใช้ PFAS และผลิตภัณฑ์ igus®

ไม่ว่าจะมีการห้ามใช้ PFAS หรือไม่ เรามีวัสดุหลายชนิดที่ไม่ใช้ PTFE (คลิกดูรายชื่อผลิตภัณฑ์ที่นี่) 

• iglidur A160, A200, A230, A290, A500, B160, B180, C, F, GLW, IC-04, J2, J3, J3B, M250, N94, R, T220, W160, X6
• igumid G, GLW, NB, TE
• Solamid G

สำหรับวัสดุที่มี PTFE แผนกพัฒนาของเราได้ค้นหาเกี่ยวกับวัสดุทดแทนมาระยะหนึ่งแล้ว วัสดุเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องมีสารประกอบ PFAS และเพื่อให้มั่นใจว่าวัสดุบางชนิดได้รับการทดสอบแล้ว สำหรับสารประกอบ PFAS ที่สำคัญที่สุดมากกว่า 100 ชนิด เนื้อหาต่อไปนี้ต่ำกว่าขีดจำกัดในการพิจารณา (ณ วันที่ 2 มีนาคม 2023)

• iglidur G, J, M250, P, P210, W300, X

วัสดุต่อไปนี้ยังอยู่ระหว่างการทดสอบเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ PFAS ที่สำคัญที่สุด

• iglidur A500, GLW, H1, J200
• igumid CG, ESD, G, GLW, NB

หมายเหตุ: การมีอยู่ของร่องรอยของสารเคมีที่ไม่พึงประสงค์ไม่สามารถตัดออกได้ เนื่องจาก igus ไม่มีอำนาจบังคับต่อการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อหาข้างต้น เราจึงไม่รับประกันหรือรับผิดชอบใดๆ ไม่ว่าจะโดยชัดแจ้งหรือโดยนัย ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ข้อมูลนี้

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ igus และ PFAS

• PFAS ในบุชตลับลูกปืน iglidur®?